Lively Summer in Andalucia จิรวรา วีรยวรรธน
ท้องฟ้าหน้าร้อนของอันดาลูเซีย สดใส เหมือนดอกไม้ที่เริ่มบาน ความมีชีวิตชีวา ของเมืองถูกปลุกขึ้นด้วยความรื่นรมย์ของผู้คน ที่ออกมาใช้ชีวิต นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันชอบ การเดนิ ทางในหนา้ รอ้ น อากาศสบายๆ ภายใต้ แสงแดดส่องสาด สร้างแสงเงาทาบทาตึก บน พื้นถนน และสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าให้กับฉัน ไดม้ ากกวา่ ความเยยี บเยน็ ในหนา้ หนาว
เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว คือหน้าร้อนแรก ของฉนั กบั สามใี นอนั ดาลเู ซยี แควน้ ทางใตข้ อง
สเปน เมอ่ื ทำความรจู้ กั กบั อนั ดาลเู ซยี ฉนั จงึ ไดร้ บั รถู้ งึ ความสำคญั ของแควน้ น้ี วา่ ทส่ี เปน มีความยูนีกไม่เหมือนประเทศใดในยุโรป ก็ เพราะอิทธิพลที่มีต้นตอมาจากอันดาลูเซีย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากแขกมัวร์มาตั้งแต่ครั้ง อดีต ที่เข้ามายึดครองอันดาลูเซียกว่า 700 ปี ก่อนที่คริสเตียนจะกลับมายึดคืน ทำให้ สถาปัตยกรรมไปจนถึงวัฒนธรรมต่างๆ มี ความผสมผสานของมุสลิมและคริสเตียน อย่างสวยงามแปลกตาและน่าสนใจ เมื่อ
อันดาลูเซียยืนหนึ่งขนาดนี้ เราเลยเลือกที่จะ ใช้เวลาอยู่ที่นี่ครึ่งเดือน ในอพาร์ตเมนต์ซึ่งอยู่ใน เซบีญา (Seville) เมืองหลวงของอันดาลูเซีย และ กรานาดา (Granada)
เราใช้เวลาที่นี่กันอย่างไม่มีแพลนกำหนดชีวิต การเลือกพักอพาร์ตเมนต์ให้ความรู้สึกไม่ต่างจาก อยบู่ า้ น เชา่ รถไวห้ นง่ึ คนั สำหรบั ไปไหนมาไหน ได้ ทำตัวโอ้เอ้เอ้อระเหยในตอนเช้า เดินเล่นสะเปะ สะปะแบบไรจ้ พี เี อสเพอ่ื ยอมใหต้ วั เองหลงทางบา้ ง ชวี ติ ทไ่ี มต่ อ้ งเปะ๊ ไปเสยี ทกุ อยา่ ง คอื ความสนกุ ทใ่ี น ชวี ติ ทำงานไมอ่ นญุ าตใหเ้ ราเปน็
เซบีญาเป็นเมืองแรกที่เราปักหลักในแคว้น อันดาลูเซีย เราพักอยู่ในย่านเมืองเก่าที่มีความ คึกคักของผู้คน ชีวิตของคนแถบนี้เริ่มต้นเมื่อสาย เริงร่ายามกลางวัน กว่าจะดินเนอร์กันก็สามทุ่ม เมืองจะเงียบและส่งคนเข้านอนก็ตีสองตีสาม ยิ่งถ้าเป็นคืนวันหยุดศุกร์เสาร์ละก็ ราวกับที่นี่ไม่มี กลางคนื เพราะคนทน่ี เ่ี ทย่ี วกนั ถงึ เชา้
อ้อ... สิ่งหนึ่งที่เราจะบอกว่าไม่มีแพลนไม่ได้ เหน็ จะเปน็ เรอ่ื งการเทย่ี วชมไฮไลตส์ ำคญั ของเมอื ง นแ่ี หละ เพราะวา่ เราตอ้ งจองตว๋ั มาลว่ งหนา้ เมอื ง เซบีญามีมรดกโลกอยู่หลายแห่ง แต่ที่ใครไปแล้ว พลาดไม่ได้คือสถาปัตยกรรมเก่าแก่กลางเมือง อย่างมหาวิหารเซบีญา (Seville Cathedral) ที่สวย แปลกตาแบบสเปน ความใหญ่โตของที่น่นี ั้นไดร้ ับ การจดั อนั ดบั เอาไวว้ า่ เปน็ โบสถส์ ไตลโ์ กธกิ ทใ่ี หญ่
ที่สุดในโลก
เลยทเี ดยี ว
เรามักพบอนุสรณ์ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดิน เรือผู้เก่งกาจในหลายเมืองหลายประเทศ แต่ที่เซบีญา เรื่องราวของโคลัมบัสนั้นคือความยิ่งใหญ่ในฐานะฮีโร่ของ ชาวสเปน ด้วยในยุคที่มีการล่าอาณานิคม กษัตริย์สเปน เป็นผู้ออกทุนให้กับนักสำรวจหลายๆ คนออกเรือเพื่อหา ดินแดนใหม่ และโคลัมบัสก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม จน ทำให้สเปนได้ครอบครองอเมริกาใต้ ได้ออกไปค้นพบ อเมริกา และเซบีญาคือที่ตั้งของท่าเรือที่โคลัมบัสออก เดินทาง กับนำความรุ่งเรืองกลับมาให้ทั้งอาณาจักร เมื่อ โคลมั บสั เสยี ชวี ติ ศพของเขาจงึ ถกู ฝงั เอาไวท้ ว่ี หิ ารน้ี
ในอาณาบริเวณเดียวกันกับมหาวิหารเซบีญามีทั้ง อทุ ยานและพระราชวงั อยใู่ นนน้ั พระราชวงั เซบญี า (Alcázar de Seville) งดงามด้วยศิลปะสไตล์อาหรับผสมผสานกับ ตะวนั ตก ความผสมผสานนม้ี าจากแตเ่ ดมิ นน้ั เปน็ พระราช วังเดิมของคนมุสลิม ภายหลังที่อิทธิพลของมุสลิมลดน้อย ถอยลง คริสเตียนตีเมืองกลับมาได้ ก็ยึดเอาพระราชวัง แหง่ นแ้ี ลว้ ใสค่ วามเปน็ ตะวนั ตกเขา้ ไป
ไม่ต่างกับประเทศที่เคยได้รับอิทธิพลแบบเดียวกัน
และเป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก
ที่ ศิลปะของพวกเขาถ่ายทอดลงบนงานกระเบื้อง หาก โปรตุเกสจะมีเอกลักษณ์อยู่ที่ลวดลายกระเบื้องเป็นสีฟ้าขาว สเปนจะต่างไปตรงสีสันที่หลากหลายแบบคัลเลอร์ ฟูล ซึ่งเราได้เห็นว่าแต่ละเมืองก็จะต่างกันไป ก็ตอนไป เดนิ เทย่ี วท่ี พลาซา่ เดอ เอสปาญา (Plaza de Espana) ท่ี สรา้ งขน้ึ มาเพอ่ื จดั งานเอก็ ซโ์ ป ปี 1929 กบั การออกแบบท่ี ต้องการโชว์ศิลปะและสถาปัตยกรรมของเมือง จึงเป็น เหมอื นการรวมเอาทกุ สง่ิ ทเ่ี ปน็ ไฮไลตข์ องอนั ดาลเู ซยี มาไว้ ทกุ มมุ งานกระเบอ้ื งทฉ่ี นั ชอบมาก จะอยตู่ รงสว่ นระเบยี ง ทต่ี กแตง่ ใหเ้ ปน็ ตวั แทนของเมอื งในสเปน ไมว่ า่ จะเซบญี า บารเ์ ซโลนา มาดรดิ ฯลฯ ทแ่ี ตล่ ะเมอื งกม็ ลี วดลายทต่ี า่ ง กนั ในรายละเอยี ด คนชอบถา่ ยรปู ตอ้ งเผอ่ื เวลาสำหรบั ทน่ี ่ี เอาไวห้ ลายๆ ชว่ั โมง และแสงจะสวยมากในตอนคำ่ ๆ ฉนั เองกอ็ ยจู่ นพลาซา่ ปดิ เลยเหมอื นกนั
ความน่ารักของเซบีญา คือเราจะเห็น คนเต้นฟลามิงโก้กันทั้งเมือง เดินร้านโน้น เข้าร้านนี้ก็จะมีชุดฟลามิงโก้ขาย ซึ่งไม่ได้ จะขายให้นักท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่ขาย
ใหค้ นเมอื งนก้ี นั เองนแ่ี หละเปน็ หลกั เพราะ ในเดือนกันยายนราวสองสัปดาห์ เซบีญา จะมีเทศกาลฟลามิงโก้ที่ชาวเมืองจะสวม ชุดนี้กัน ผู้หญิงสวมชุดระบายเป็นชั้นๆ เกลา้ ผม ทดั ดอกไม้ และเตน้ รำกนั แตแ่ ม้ จะยงั ไมถ่ งึ เทศกาล เซบญี ากใ็ หบ้ รรยากาศ ของฟลามิงโก้ที่เต้นโชว์กันในย่านท่อง
เที่ยว เมื่อเราเดินผ่านเขาก็จะเข้ามา ชักชวนให้เราเต้นด้วย ฉันจะอดใจยังไงได้ ก็ทั้งเสียงเพลง และแซงเกรียที่ชวนให้ใหลหลงไปด้วย ทำเอาเกือบซื้อ ชดุ ฟลามงิ โกเ้ สยี แลว้ ตง้ั แตว่ นั นน้ั
ที่นี่ไม่ได้มีแต่ความเก่าแก่เลยเสียทีเดียว เพราะใน สถาปัตยกรรมที่เป็นมรดก เซบีญามีสถาปัตยกรรมสมัย ใหม่แทรกตัวอยู่ในนั้นด้วย อย่างสถาปัตยกรรมเห็ดยักษ์ หรือ Giant Mushroom ที่เทศบาลเมืองพัฒนาขึ้นบนพื้นที่ ตลาดโบราณยคุ โรมนั ทเ่ี คยเสอ่ื มโทรม และกลายเปน็ ลาน จอดรถมายุคหนึ่ง ไม่กี่ปีมานี้เขาปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็น ตลาดชุมชนอีกครั้ง มีการประกวดแบบจริงจัง ซึ่งคนชนะ ที่เป็นชาวเยอรมันก็ได้ก่อสร้างอาคารรูปเห็ดหลายชั้น ภายในมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านค้า ส่วนชั้น ใต้ดินทำเป็นมิวเซียมโดยการขุดพื้นให้เห็นถนนโรมันสมัย
ก่อน แล้วปูทับด้วยกระจกเพื่อให้คนที่อยู่ด้านบน ไดม้ องเหน็ ทม่ี าของสถานทน่ี อ้ี กี ที
กอร์โดบา (Cordoba) เป็นเมืองเล็กๆ ใน อนั ดาลเู ซยี ทเ่ี ราขบั รถออกจากเมอื งไปชม เมอื งน้ี มีร่องรอยของความเป็นมุสลิมอยู่จัดแจ้ง สะพาน
โรมัน (Roman Bridge) ข้ามแม่น้ำกวาดาลากิเวีย ที่ก่อสร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 และผ่านการ
บรู ณะโดยแขกมวั รเ์ มอ่ื ศตวรรษท่ี 8 ยงั คงแขง็ แรง
ดว้ ยโครงสรา้ งของอฐิ และตอมอ่ ขนาดใหญ่ นา่ ทง่ึ ในภูมิปัญญาของคนโบราณว่าสามารถสร้าง สะพานยาวเกือบ 250 เมตรข้ามน้ำเชี่ยวขนาดนี้
ไดอ้ ยา่ งไร โดยทร่ี ถยงั วง่ิ ขา้ มไปมาไดต้ ง้ั สองพนั ปี
ความนา่ ทง่ึ ของชาวแขกมวั ร์ ยงั ปรากฏใหเ้ ราเหน็ ที่มัสยิดกอร์โดบา ซึ่งยิ่งใหญ่อลังการเพราะเขาตั้งใจสร้าง ให้ใหญ่โตเป็นอันดับสองของโลก รองจากมัสยิดที่นคร เมกกะ เพอ่ื ประกาศศกั ดาของกษตั รยิ ผ์ คู้ รองนครในยคุ นน้ั
ระหว่างทางที่เราย้ายไปพักยังเมืองกรานาดา เราแวะ ไปเยี่ยมเพื่อนที่เมืองมาเบญา (Marbella) ซึ่งเป็นเมือง ชายทะเล ให้บรรยากาศแตกต่างจากเมืองอื่นลิบลับ ไอ ทะเล ร่มชายหาด บิกินี บีชบาร์ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว มากกวา่ ชาวเมอื ง เปน็ เมอื งตากอากาศทเ่ี ศรษฐใี นองั กฤษ นิยมมาซื้อบ้านไว้พักผ่อนยามหนีหนาว เมืองนี้จึงเป็นการ ผ่อนอารมณ์ของเราก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศของเมืองเก่า อกี ครง้ั ทป่ี ลายทาง
ถา้ จะใหค้ ะแนนความโรแมนตกิ คะแนนนค้ี งตอ้ งเทมา ทก่ี รานาดาอยา่ งไมม่ เี งอ่ื นไข เลา่ อยา่ งสน้ั ๆ กค็ อื กรานาดา เป็นที่มั่นสุดท้ายของมุสลิมที่ถูกโจมตีโดยชาวคริสต์ที่ ต้องการยึดเมืองคืน แต่ก่อนถึงคราวล่มสลาย แขกมัวร์ก็ ไว้ลายด้วยการสร้างความยิ่งใหญ่ระหว่างยึดครองกว่า 700 ปี ซึ่งปรากฏเป็นตัวแทนอยู่ที่อาลัมบรา (Alhambra) อาณาจักรที่ประกอบไปด้วยศาสนสถาน พระราชวัง อุทยาน จากที่เคยได้ชมอะไรแบบนี้ที่เซบีญามาแล้ว เมื่อ ไดเ้ จออาลมั บรากลบั กลายเปน็ วา่ เซบญี านน้ั ‘เบบ’๋ี ไปเลย ด้วยอาณาบริเวณที่กว้างขวางชนิดชมวันเดียวไม่ทั่ว และ เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ส์เกาหลี ‘Memories of the Alhambra’ จนทำใหค้ นเกาหลนี ยิ มมาตามรอยกนั ไมเ่ วน้
การจะเที่ยวชมอาลัมบรานั้นเราต้องจองตั๋วล่วงหน้า กันเป็นเดือน เพราะแม้สถานที่กว้างขวางแต่เขาก็มีการ จำกัดคนเข้าเพื่อไม่ให้แออัดยัดเยียด และเมื่อถึงรอบเข้า ชมก็ต้องไปเข้าแถวต่อคิวล่วงหน้าก่อน หากไปช้าต้องทิ้ง ตั๋วทันที วันนั้นจำได้ว่าเราซื้อตั๋วรอบบ่ายสอง และไปถึง ก่อนบ่ายสองด้วยซ้ำ ก็ยังเกือบจะไม่ได้เข้าเพราะคิวยาว จนเกินเวลา การจะทิ้งตั๋วเพื่อซื้อตั๋วใหม่ในรอบต่อไปหรือ แม้กระทั่งตั๋ววันพรุ่งนี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะต้องจอง ล่วงหน้ากันเป็นเดือน หากพลาดก็คือต้องปีหน้าฟ้าใหม่ โนน่ เลย
อาลัมบราตั้งอยู่บนเนินเขา ฝั่งที่เป็นพระราชวังเก่า ความสวยงามยังอยู่ที่สิ่งก่อสร้าง แต่ข้ามไปอีกฟากของ เนนิ เราจะพบมมุ ทส่ี วยทส่ี ดุ ของอาลมั บรา เปน็ จดุ ชมววิ ท่ี เมื่อมองกลับไปอีกฝั่งจะเห็นความงามที่ลืมไม่ลง ส่วนตัว เมืองกรานาดานั้นก็เป็นเมืองที่น่ารัก มีโบสถ์เก่า มัสยิด เก่า ซ่อนตัวอยู่ทุกจุด มีสแควร์ให้เดินเล่นอยู่เยอะทีเดียว รวมไปถงึ ฟลมี ารเ์ กต็ นา่ รกั ๆ ทเ่ี ดนิ ๆ อยอู่ าจเผลอคดิ วา่ อยู่ ในตรุ กกี ไ็ ด้
อันดาลูเซียมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนที่ไหน แม้จะมีบาง อยา่ งคลา้ ยเมอื งในหลายแหง่ ทอ่ี าหรบั เคยเขา้ ไปมอี ทิ ธพิ ล อาจจะเป็นเพราะผู้คนที่มีความน่ารักและดูผ่อนคลาย ไม่เร่งรีบ มีเสียงเพลงอยู่ในทุกแห่งหน และมนต์เสน่ห์ ของฟลามิงโก้ยังจับใจ จนทำให้ฉันตั้งใจแน่วแน่ว่า จะ กลับไปอีกครั้งให้ได้ในช่วงเทศกาลฟลามิงโก้ ไม่ปีใดก็ ปหี นง่ึ