หัวหินในความทรงจำ ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี บ้านสุขเวศม์และบ้านมะขามโทน
ที่สำหรับคนป่วยไปพักรักษาตัวแลคนธรรมดา ไปพักตากอากาศ’ จึงทรงชักชวนพระบรม วงศานุวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ให้ไปซื้อ ที่ดินชายทะเลหัวหิน สำหรับสร้างบ้านพักตาก อากาศ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ (พระองค์เจ้าชายกฤษดาภินิหาร ต้นราชสกุล กฤดากร) เป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สร้างพระ ตำหนักหลังใหญ่ขึ้นทางด้านใต้ของกลุ่มหิน ริมหาด และได้ประทานชื่อตำหนักว่า ‘แสน สำราญสุขเวศม์’ และทรงขนานนามชายหาด หน้าตำหนักและชายหาดถัดไปทางใต้เสียใหม่ ว่า ‘หัวหิน’ ต่อมาชื่อหัวหินก็ครอบคลุมไปทั้ง ตำบล และอำเภอหัวหินในปัจจุบัน
ต่อมากรมพระนเรศฯ ทรงปลูกอีกหลังหนึ่ง แยกเป็น ‘แสนสำราญ’ และ ‘สุขเวศม์’ เพื่อใช้ รับเสด็จเจ้านาย พร้อมทั้งทรงสร้างเรือนขนาด
เล็กใต้ถุนสูงขึ้นอีกหลายหลัง ซึ่งต่อมาคือ ‘บังกะโล สุขเวศม์’ และ ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี หรือคุณหญิง ต้น ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ก็เป็นผู้หนึ่งที่เดินทางมา พักผ่อนที่สุขเวศม์เป็นประจำทุกเดือนเมษายนเรื่อยมา ตั้งแต่จำความได้
เมื่อคุณหญิงต้นมีอายุได้ขวบเศษ คุณชายยงสวาสดิ์ จึงพาไปพักที่หัวหินด้วย และกลายเป็นธรรมเนียมว่า เดือนเมษายนของทุกปีเธอจะไปอยู่ที่บ้านสุขเวศม์กับ คุณย่า
“ทุกซัมเมอร์ต้นจะไปอยู่หัวหินกับคุณย่าและแม่ (ท่านผู้หญิงวิยะฎา กฤดากร ณ อยุธยา) ส่วนพ่อจะมา ทุกเสาร์อาทิตย์ เพราะวันธรรมดาพ่อต้องทำงาน ซึ่ง สมัยนั้นแทบทุกบ้านสามารถเดินถึงกันได้และทุกคนจะ รู้จักกันหมด ข้างบ้านเราก็คือบ้านน้อย ซึ่งเป็นบ้านของ ท่านย่า (หม่อมเจ้าหญิงผจงจิต กฤดากร) ซึ่งเป็นน้อง ของท่านปู่ (หม่อมเจ้าเสริมสวาสดิ์ กฤดากร) ที่ทำร้าน โขมพัสตร์ ถัดไปเป็นบ้านสมประสงค์ บ้านสมปรารถนา
“ต้นยังจำได้ไม่ลืมว่า สายๆ คุณย่าท่าน (ม.ล.บัว กิติยากร) จะขับรถเองเป็นรถเบนซ์สี่ประตูสีดำมาหา คุณย่าอยู่เสมอๆ ท่านจะผูกผ้าโพกผม ยิ่งทำให้ดูเก๋มาก ในสายตาเด็กๆ อย่างต้น เพราะสมัยนั้นผู้หญิงขับรถเอง มีน้อยนะคะ กิจกรรมของผู้ใหญ่นอกจากมาเยี่ยมเยียน กันแล้ว บ่ายๆ ก็เล่นไพ่ตองที่ใต้ถุนตำหนักปลุกเกษม ในวังไกลกังวลที่คุณท่านพำนักอยู่ ช่วงเย็นพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปี หลวงจะเสด็จฯ ลงเสวยที่ศาลาเริง พวกผู้ใหญ่ก็จะไป เข้าเฝ้าฯ
“สมัยคุณย่ายังอยู่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จะเสด็จฯ มาเสวยพระสุธารสทุกปี ตอน
แล้วก็กลับลงไปเล่นต่อ เมนูประจำคือก๋วยเตี๋ยวหาบ ไม่ก็ขนมจีน สมัยก่อนอยู่ กันพร้อมหน้าคุณพ่อคุณแม่ของพี่นิดหน่อย พ่อแม่ ต้นก็จะมาทานด้วยกันทุกมื้อ ผลัดกันทำอาหารเลี้ยง ครอบครัวใหญ่ค่ะ ตกเย็นก็รับประทานอาหารกันที่บ้าน หน้าหนาวก็สนุกทำฟองดูทีต้องตั้ง 5 - 6 หม้อ เราไม่ ค่อยออกไปไหนค่ะ”
รูปแบบการใช้ชีวิตที่หัวหินของคุณหญิงต้นเป็น กิจวัตรอย่างนี้เรื่อยมา จนกระทั่งคุณย่าถึงแก่กรรมเมื่อ ราว 30 ปีก่อน จึงมีการแบ่งที่ดินมอบให้แก่บรรดาลูก หลาน จากนั้นคุณชายยงสวาสดิ์จึงซื้อคอนโดมิเนียม เป็นที่พำนัก “ตอนหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวงประทับที่หัวหิน เป็นระยะเวลายาว แม่ก็ต้องอยู่คนเดียว แต่บ้านใหญ่ มากบนเนื้อที่เกือบ 20 ไร่ จึงพักที่คอนโดมิเนียมเพื่อ ความสะดวกสบายและปลอดภัย ส่วนบ้านเก่าก็รื้อไป จนเมื่อไม่นานมานี้จึงตกลงให้ทางแสนสิริเช่าระยะยาว เพื่อทำเป็นโรงแรม”
บ้านมะขามโทน
จากบ้านสุขเวศม์ซึ่งเป็นความทรงจำในวัยเด็กของ คุณหญิงต้น เมื่อออกเรือนมามีครอบครัวเป็นของตนเอง คุณจำนงค์ ภิรมย์ภักดีซึ่งเป็นคุณพ่อของคุณนิดหน่อย (จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี) สามีของคุณหญิงต้น ได้มอบที่ดิน ในหัวหินให้แก่คุณนิดหน่อย เพื่อสร้างบ้านพักตาก อากาศของครอบครัว และให้ชื่อว่า ‘บ้านมะขามโทน’
“บ้านมะขามโทนสร้างมา 20 ปีแล้วค่ะ บนที่ดิน ที่คุณพ่อพี่นิดหน่อยมอบให้ เราจึงตัดสินใจสร้างบ้าน ตรงนี้ก็แล้วกัน และต้นบอกสถาปนิกว่าต้องการบ้าน แบบที่มีอยู่ทั่วไปในหัวหินสมัยเรายังเด็ก โดยติดประตู บานเฟี้ยมเพื่อให้สามารถเปิดโล่งได้หมด
“กิจกรรมสมัยนี้เช้ามาก็ยังเล่นน้ำเหมือนเดิม เราจะ เรียกกันเล่นๆ ว่า Makhamtone Ski School เด็กๆ จาก บ้านที่รู้จักกันดีจะมาเล่นน้ำและหัดสกี คุณพ่อคุณแม่ ของพี่นิดหน่อยก็ใจดีอนุญาต เด็กๆ จากทุกบ้านแถบ นั้นก็จะมารวมตัวกันที่หาด เพื่อเล่นกีฬาทางน้ำ เล่น เสร็จแล้วก็ทานกล้วยแขกกันสนุกสนาน เด็กรุ่นพี่ก็จะ สอนรุ่นน้อง เป็นอย่างนี้มาทุกรุ่น คณะของตุ๊ย (ทิพนันท์ ศรีเฟื่องฟุ้ง) ก็สอนเจน (กฤติญา มหาดำรงค์กุล) ตอนนี้